เคล็ดไม่ลับ การทำนามบัตร

articles

ก่อนที่จะมีนามบัตรเป็นของตัวเอง เรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่าในนามบัตรของเราควรมีอะไรบ้าง เพราะนามบัตรคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นคุณ และยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดอีกช่องทางหนึ่ง ถ้าคุณมีนามบัตรที่สามารถถ่ายทอดความเป็นคุณได้ ก็จะช่วยสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นให้กับผู้รับ และสร้างคอนเน็คชั่นให้กับคุณได้อีกด้วยค่ะ PIM123™ ใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดสรรสิ่งดีๆให้คุณ ขอบอกเลยว่า ทริปและทริคต่อไปนี้ ถ้าคุณรู้ไว้ นามบัตรของคุณออกมาเพอร์เฟ็กต์แน่นอน มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

  • มีชื่อและนามสกุลชัดเจน ถือเป็นส่วนสำคัญอันดับแรกของนามบัตร จะต้องระบุให้ชัดเจน ห้ามสะกดผิดเป็นอันขาด เพราะการสะกดผิดแม้แต่ตัวเดียว จะทำให้ความหมายของชื่อและการออกเสียงผิดแปลกไป ไม่หนำซ้ำยังอาจจะทำให้ผู้รับหรือคู่ค้าทางธุรกิจของคุณสับสน และนำมาซึ่งความผิดพลาดในด้านการสื่อสาร และการติดต่อประสานงานต่างๆอีกด้วย เพราะฉะนั้น การวางชื่อไว้หน้านามบัตรจะต้องวางให้โดดเด่น สะดุดตา และเลือกใช้ฟอนต์ตัวอักษร และขนาดตัวอักษรที่เหมาะสม จะได้ไม่มีปัญหาเวลาติดต่อธุรกิจยังไงล่ะคะ
  • ตำแหน่งหน้าที่ ส่วนนี้ก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกันค่ะ เพราะบ่งบอกถึงตำแหน่งและหน้าที่การงานเจ้าของบัตร ทุกครั้งที่เรายื่นนามบัตร ผู้รับหรือคู่ค้าทางธุรกิจของเราจะรู้ทันทีว่าเราเป็นใคร ทำให้สะดวกในการติดต่อ โดยเฉพาะบริษัทที่มีพนักงานหลายคน จะไม่ค่อยมีปัญหาเพราะทุกคนจะมีตำแหน่งหน้าที่ชัดเจนตายตัวอยู่แล้ว แต่สำหรับบริษัทที่มีขนาดเล็ก พนักงานบางส่วนอาจจะยังไม่รู้ตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองแน่ชัด ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลง จะต้องรีบเปลี่ยนนามบัตรใหม่ในทันที ทั้งนี้ ก่อนที่จะทำนามบัตรต้องกำหนดให้ได้ก่อนว่าเจ้าของนามบัตรทำงานในตำแหน่งอะไร จึงจะสามารถดำเนินการทำนามบัตรได้
  • ที่อยู่และข้อมูลการติดต่อ ถ้าไม่มีที่อยู่ ผู้รับจะไม่สามารถทราบได้เลยว่า บริษัทหรือตำแหน่งที่ตั้งของคุณอยู่ที่ไหน เจ้าของนามบัตรหรือผู้ประกอบการทั้งหลายจะต้องระบุชื่อที่อยู่ของบริษัทอย่างชัดเจนว่าบริษัทชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน เลขที่เท่าไหร่ แขวง/เขตไหน รหัสไปรษณีย์รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของทางบริษัท หากมีช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นๆ นอกเหนือไปจากเบอร์โทรศัพท์มือถือ เช่น อีเมล เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ฯลฯ ที่มีไว้เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารหลายๆ ช่องทาง ก็สามารถใส่ลงไปได้เลยค่ะ
  • โลโก้บริษัท ต้องมีขนาดใหญ่ ชัดเจน และโดดเด่นที่สุดในนามบัตร ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดสายตาผู้รับยังไงล่ะคะ การจัดวางก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เกะกะสายตา มองเห็นชัดเจน ควรวางไว้มุมใดมุมหนึ่งของนามบัตร และจะต้องไม่มีรายละเอียดในส่วนอื่นๆเข้าไปเกี่ยวข้องกับโลโก้ หรือจัดอยู่ในส่วนเดียวกันนะคะ
  • ขนาด โดยปกติขนาดของนามบัตรจะเป็นมาตรฐานสากล คือ มีความกว้าง 90 มิลลิเมตร และยาว 54 มิลลิเมตร แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีในการพิมพ์เจริญก้าวหน้าไปมาก ทำให้เราสามารถออกแบบนามบัตรของเราเองได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของนามบัตร รวมถึงขนาดความกว้างความยาว แต่ก็ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะถ้าหากนามบัตรของคุณมีรูปทรงที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป อาจจะทำให้ไม่สะดวกในการพกพาได้ค่ะ
  • สีพื้นหลัง ออปชั่นนี้คุณสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ ทางที่ดีควรเป็นสีที่เหมาะกับบุคลิกหรือธุรกิจของคุณ เพราะนามบัตรเป็นสิ่งที่แสดงถึงบุคลิกหรือธุรกิจของคุณ สองสิ่งนี้จึงจำเป็นต้องมีความสอดคล้องกัน อย่างเช่นถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเวดดิ้งสตูดิโอ คุณอาจจะเลือกสีหวานๆ โทนพาสเทล ซึ่งแสดงถึงความรัก และความอ่อนหวานอ่อนโยนค่ะ

เมื่อนามบัตรของคุณมีครบทั้ง 6 อย่างแล้ว ตาม PIM123™ มาดูเคล็ดลับเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยที่จะช่วยทำให้นามบัตรของคุณเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ขึ้นไปอีกขั้นได้ค่ะ

  • เน้นความเรียบง่ายไว้ก่อน นามบัตรที่ดูเรียบง่ายจะดึงดูดความสนใจของผู้รับได้มากกว่านามบัตรที่ดูเยอะๆนะคะ เพราะมีความเรียบง่าย กะทัดรัด ไม่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบตัวอักษร ขนาด และสีของตัวอักษร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจบ้านและสวน นามบัตรของคุณก็จะต้องโดดเด่นไปด้วยโทนสีอ่อนๆ รูปแบบตัวอักษรในนามบัตรก็จะต้องอ่านง่าย แต่ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ นักออกแบบ ฯลฯ การเลือกใช้โทนสีสดใสจะตอบโจทย์มากกว่าโทนสีเข้มๆ และยังแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ แสดงถึงตัวตนของคุณได้อีกด้วยค่ะ
  • มีภาษาอังกฤษไว้ ได้เปรียบแน่นอน เพราะภาษาอังกฤษเป็นเสมือนภาษากลางของโลก ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักจึงจำเป็นต้องใช้ภาษานี้ติดต่อสื่อสารกับประเทศอื่นๆที่พูดคนละภาษากัน ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากค่ะ เพราะถ้าหากเราต้องติดต่อธุรกิจกับชาวต่างชาติ แล้วนามบัตรของเรามีแต่ภาษาไทย ก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จในการติดต่อแน่ๆ ดังนั้นนามบัตรของคุณควรมีมากกว่า หรืออย่างน้อย 2 ภาษานะคะ ด้านหลังที่ว่างๆ อาจจะเพิ่มข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษลงไปด้วย หรืออาจจะเป็นภาษาของประเทศนั้นๆ ที่เป็นคู่ค้ากับคุณค่ะ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน รับประกันเลยว่าประสบความสำเร็จทุกการติดต่อประสานงานแน่นอนค่ะ ดังนั้น การที่นามบัตรของคุณมีสองภาษาถือว่าได้เปรียบแน่นอน
  • ใส่ข้อมูลที่จำเป็น ถูกต้อง และครบถ้วน ทุกครั้งก่อนที่จะพิมพ์นามบัตร คุณควรตรวจสอบข้อมูลที่พิมพ์ลงไปว่าถูกต้อง ครบถ้วนแล้วหรือยัง ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ e-mail และช่องทางการสื่อสารต่างๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น

อ่านจบแล้วก็ลองนำไปใช้กับนามบัตรของคุณกันได้นะคะ เพื่อที่นามบัตรของคุณจะได้ออกมาเพอร์เฟ็กต์ น่าสนใจ และดึงดูดใจผู้รับยังไงล่ะคะ